Tenses
Tense แบ่งออกเป็น 3 ชนิดใหญ่ คือ
ชนิดของ Tense แบ่งออกเป็น 3 ชนิดใหญ่ คือ
1. Present Tense ใช้กับการกระทำที่เป็นปัจจุบัน
2. Past Tense ใช้กับการกระทำที่เป็นอดีต
3. Future Tense ใช้กับการกระทำที่เป็นอนาคต
แต่ละ Tense ใหญ่แบ่งออกเป็น 4 Tense ย่อย จึงมีทั้งหมด 12 Tense ดังนี้
<>
Present Tense | Past Tense | Future Tense |
1. Present Simple Tense | 1. Past Simple Tense | 1. Future Simple Tense |
2. Present Progressive Tense | 2. Past Progressive Tense | 2. Future Progressive Tense |
3. Present Perfect Tense | 3. Past Perfect Tense | 3. Future Perfect Tense |
4. Present Perfect Progressive Tense | 4. Past Perfect Progressive Tense | 4. Future Perfect Progressive Tense |
โครงสร้างของ Tense ทั้ง 12 Tense ย่อย มีโครงสร้างของประโยคดังนี้
Present Tense
1. Present Simple Tense S + V.1
2. Present Progressive Tense S + is ,am , are + V.1 เติม ing
3. Present Perfect Tense S + have , has + V.3
4. Present Perfect Progressive Tense S + have , has + been + V.1 เติม ing
Past Tense
1. Past Simple Tense S + V.2
2. Past Progressive Tense S + was , were + V.1 เติม ing
3. Past Perfect Tense S + had + V.3
4. Past Perfect Progressive Tense S + had + been + V.1 เติม ing
Future Tense 1. Future Simple Tense S + will , shall +V.1
2. Future Progressive Tense S + will, shall + be + V.1 เติม ing
3. Future Perfect Tense S + will , shall + have , has + V.3
4. Future Perfect Progressive Tense S +will , shall + have + been + V.1 เติม ing
1.Present SimpleTense (ปัจจุบันกาลปกติ)
( ประธาน + กริยาช่อง 1 )
ตัวอย่าง :
1. Sukin is sleeping. (สุคินกำลังนอนหลับ)
ตัวอย่าง :
1. Sukin is sleeping. (สุคินกำลังนอนหลับ)
2. Amonrat is my close friend.(อมรรัตน์เป็นเพื่อนสนิทของฉัน) - ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นจริงในขณะพูด
2.Present Progressive Tense (ปัจจุบันกาลต่อเนื่อง)
ประโยค Present Progressive Tense เชิงบอกเล่า
โครงสร้าง: Subject + is, am, are + Verb 1 ing.
(ประธาน + is, am, are + กริยาช่อง 1 เติม ing.)
ตัวอย่าง: 1. Sukin is sleeping. (สุคินกำลังนอนหลับ)
โครงสร้าง: Subject + is, am, are + Verb 1 ing.
(ประธาน + is, am, are + กริยาช่อง 1 เติม ing.)
ตัวอย่าง: 1. Sukin is sleeping. (สุคินกำลังนอนหลับ)
2. Amonrat is my close friend.(อมรรัตน์เป็นเพื่อนสนิทของฉัน) - ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นจริงในขณะพูด
3.Present Perfect Tense(ปัจจุบันกาลสมบูรณ์)
ประโยค Present Perfect Tense เชิงบอกเล่า
( ประธาน + have , has + กริยาช่อง 3 )
ตัวอย่าง :
ตัวอย่าง :
1. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต และเหตุการณ์นั้นยังคงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เช่น
- Sukin has studied English for 2 years. ( สุคินเรียนภาษาอังกฤษมา 5ปีแล้ว ขณะนี้ก็ยังเรียนอยู่ )
- Sukin has studied English for 2 years. ( สุคินเรียนภาษาอังกฤษมา 5ปีแล้ว ขณะนี้ก็ยังเรียนอยู่ )
2.ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีตและเหตุการณ์นั้นยังคงต่อเนื่องมาถึงเวลาปัจจุบัน เช่น
-Monthakarn has stayed in Khonkaen up to the present time. (มณฑกานต์มาอยู่ขอนแก่นจนกระทั่งบัดนี้ (ขณะนี้ก็ยังไม่ได้ไปอยู่ที่อื่น))
4.Present Perfect Progressive Tense (ปัจจุบันกาลสมบูรณ์ต่อเนื่อง)
ประโยค Present Perfect Progressive Tense เชิงบอกเล่า
โครงสร้าง: Subject + have, has + been + V.1 ing
(ประธาน + have, has + been + V.1 เติม ing)
ตัวอย่าง: 1. Amonrat has been speaking for 3 hours. (อมรรัตน์พูดมา 3 ชั่วโมงแล้ว)
(ประธาน + have, has + been + V.1 เติม ing)
ตัวอย่าง: 1. Amonrat has been speaking for 3 hours. (อมรรัตน์พูดมา 3 ชั่วโมงแล้ว)
2. I have been playing games since afternoon. (ฉันเล่นเกมส์มาตั้งแต่ตอนบ่าย)
5.Past Simple Tense(อดีตกาลปกติ)
(ประธาน + กริยาช่อง 2 )
ตัวอย่าง: 1. Monthakare cooked every night last month. (มณฑกานต์ทำอาหารทุกคืนเมื่อเดือนที่แล้ว)
2. Sukin always cried when he was young. (สุคินร้องไห้เป็นประจำ ตอนเขายังเด็ก)
6.Past Progressive Tense (อดีตกาลต่อเนื่อง)
ประโยค Past Progressive Tense เชิงบอกเล่า
โครงสร้าง: Subject + was, were + V.1 ing
(ประธาน + was, were + กริยาช่องที่ 1 เติม ing)
ตัวอย่าง:
ตัวอย่าง:
1.ใช้เพื่อกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นควบคู่กันไป ณ เวลาเดียวกัน (Parallel Actions) โดย เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์จะใช้ Past Continuous Tense เช่น
- I was sleeping while the teacher was teaching.(ฉันนอนหลับขณะที่คุณครูกำลังสอนอยู่)
2.ใช้เพื่อกล่าวถึงเหตุการณ์หรือการกระทำที่ เกิดขึ้นในอดีต ในช่วงเวลาที่บ่งไว้อย่างชัดเจน เช่น
- I was taking a shower at eight o’clock last night.(ฉันกำลังอาบน้ำอยู่เมื่อวานตอนสองทุ่ม)
7.Past Perfect Tense (อดีตกาลสมบูรณ์)
โครงสร้าง: Subject + had + V.3
(ประธาน + had + กริยาช่องที่ 3)
ตัวอย่าง:
1.ใช้กับเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ ที่ เกิดขึ้น และสิ้นสุดลงแล้วในอดีตทั้ง 2 เหตุการณ์ เช่น
- We had gone out before he came. (เราออกไปข้างนอกกันแล้วก่อนที่เขาจะมา)
2. When I called On Monthakarn, her mother told me that she had left home.
(เมื่อฉันไปเยี่ยมมณฑกานต์ แม่ของเธอบอกฉันว่า ฌะอได้ออกจากบ้านไปแล้ว)
8.Past Perfect Progressive Tense (อดีตกาลสมบูรณ์ต่อเนื่อง)
ประโยค Past Perfect Progressive Tense เชิงบอกเล่า
โครงสร้าง: Subject + had + been + V.1 ing
(ประธาน + had + been + กริยาช่อง 1 เติม ing)
ตัวอย่าง:
ตัวอย่าง:
1.ใช้พูดถึงการกระทำที่ เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมาในอดีต และได้สิ้นสุดลงแล้ว เช่น
- Chaiwit had been smoking for 5 months. (ไชยวิทย์เคยสูบบุหรี่มาเป็นเวลาห้าเดือน)2.ใช้กับเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นและดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงอีกเหตุการณ์หนึ่งในอดีต โดยอาจใช้กับคำว่า since และ for เช่น
- Amonrat had been shouting for help since she fell down the stairs. (อมรรัตน์ได้ร้องขอความช่วยเหลือตั้งแต่เธอได้ตกบันไดลงมา)
9.Future Simple Tense (อนาคตกาลปกติ)
ประโยค Future Perfect Progressive Tense เชิงบอกเล่า
โครงสร้าง: Subject + will, shall + have + been + V.1 ing
(ประธาน+ will shall +have +been + กริยาช่อง 1 เติม ing)
ตัวอย่าง:
1.ใช้พูดถึงเหตุการณ์หรือการกระทำที่ จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมักใช้กับ Adverb of Time เช่น tomorrow, next…, soon, shortly, later และอื่นๆ เช่น
โครงสร้าง: Subject + will, shall + have + been + V.1 ing
(ประธาน+ will shall +have +been + กริยาช่อง 1 เติม ing)
ตัวอย่าง:
1.ใช้พูดถึงเหตุการณ์หรือการกระทำที่ จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมักใช้กับ Adverb of Time เช่น tomorrow, next…, soon, shortly, later และอื่นๆ เช่น
- Wanassanan will go to the hospital tomorrow. (ฉันจะไปโรงพยาบาลในวันพรุ่งนี้)
2.ใช้กับประโยคที่ ตัดสินใจในขณะที่พูด โดยไม่ได้วางแผนมาก่อน เช่น
-I think I will buy a new mobile phone next week. (ฉันคิดว่าฉันจะซื้อมือถือเครื่องใหม่อาทิตย์หน้า)
10.Future Progressive Tense (อนาคตกาลต่อเนื่อง)
ประโยค Future Progressive Tense เชิงบอกเล่า
โครงสร้าง: Subject + will, shall + be + V.1 ing
(ประธาน + will, shall + be + กริยาช่อง 1 เติม ing)
ตัวอย่าง:
1.ใช้กับเหตุการณ์ในอนาคตที่ได้ตัดสินใจแน่นอนแล้วว่า จะทำเช่นนี้จริงๆ เช่น
(ประธาน + will, shall + be + กริยาช่อง 1 เติม ing)
ตัวอย่าง:
1.ใช้กับเหตุการณ์ในอนาคตที่ได้ตัดสินใจแน่นอนแล้วว่า จะทำเช่นนี้จริงๆ เช่น
- We shall be workingall day tomorrow. (พรุ่งนี้พวกเราจะทำงานทั้งวัน)
2. Amonrat will be finishing his work at 7 o’clock. (อมรรัตน์จะทำงานของเขาเสร็จตอนเจ็ดโมงเช้า)
11.Future Perfect Tense (อนาคตกาลสมบูรณ์)
ประโยค Future Perfect Tense เชิงบอกเล่า
โครงสร้าง: Subject + will, shall + have + V.3
(ประธาน + will, shall + have + กริยาช่อง 3)
ตัวอย่าง:
1.ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่ คาดว่าจะสิ้นสุดในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ในอนาคต โดยมักใช้กับ by + (by next week, by next month by the end of this year, etc.) เช่น โครงสร้าง: Subject + will, shall + have + V.3
(ประธาน + will, shall + have + กริยาช่อง 3)
ตัวอย่าง:
- Sukin will have completed my work by tomorrow. (สุคินจะทำงานของฉันเสร็จสมบูรณ์ในวันพรุ่งนี้)
2.ใช้เพื่อแสดงความสงสัยว่า คงจะอย่างนั้น อย่างนี้แล้วก็ได้ เช่น
- I expect you will have heard that Wanassanan is going to be married next month. (ฉันคาดว่าคุณคงจะทราบข่าวมาแล้วว่า วนัสนันท์จะแต่งงานล่วงหน้า)
12.Future Perfect Progressive Tense (ปัจจุบันกาลสมบูรณ์)
ประโยค Future Perfect Progressive Tense เชิงบอกเล่า
โครงสร้าง: Subject + will, shall + have + been + V.1 ing
(ประธาน+ will shall +have +been + กริยาช่อง 1 เติม ing)
ตัวอย่าง:
โครงสร้าง: Subject + will, shall + have + been + V.1 ing
(ประธาน+ will shall +have +been + กริยาช่อง 1 เติม ing)
ตัวอย่าง:
1.เน้นการกระทำหรือเหตุการณ์ที่ ดำเนินอยู่ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งและยังคงจะดำเนินต่อไปอีกในอนาคต โดยมักใช้กับ for + เพื่อแสดงระยะเวลาของเหตุการณ์ หรือ การกระทำนั้นๆ เช่น
- In 5 minutes, Amonrat will have been working for 12 hours. (ในอีกห้านาทีนี้ ผมก็จะทำงานครบ 12 ชั่วโมงพอดี)
2.ใช้กับเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่ ต้องการเน้นความต่อเนื่องของการกระทำใดการกระทำหนึ่งในอนาคต เช่น
- He shall have been cleaning his room for an hour when I visit him.
(เขาน่าจะกำลังทำความสะอาดห้องของเขาเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงแล้วในตอนที่ฉันไปหาเขา)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น